มันจบแล้วตั้ม! ปานเทพ เปิดกลาง “โหนกระแส”
มันจบแล้วตั้ม! ปานเทพ เปิดกลาง “โหนกระแส”
เปิดหลักฐานสัญญาจ้างทำแอปฯ หวยออนไลน์ ราคา 2 ล้านยูโร ลงชื่อ “พี่อ้อย” ชัดเจน โดย “ทนายตั้ม” เป็นตัวกลาง ปานเทพ รับเงินแล้วบอกบริษัททำแอปฯ ว่า “พี่อ้อย” ยกเลิกสัญญา ก่อนนำเงินไปซื้อบ้านหรู 43 ล้าน ที่อ้างว่าให้โดยเสน่หา หรือให้กู้ยืมมาลงทุน จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น
วันนี้(13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยในรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม เกี่ยวกับคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ “อ้อย” แจ้งความดำเนินคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท รวมทั้งคดีอื่นๆ รวม 4 คดี
โดยในคดี 71 ล้านบาทนั้น ทางฝ่ายทนายตั้มอ้างว่า เป็นเงินที่ “พี่อ้อย” โอนให้มาโดยเสน่หา แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นอ้างว่าเป็นเงินกู้ยืมเพื่อการลงทุน เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นคดีแพ่ง ซึ่งในรายการวันนี้ นายปานเทพ ได้เปิดเผยหลักฐานว่า ปานเทพ ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา หรือการให้ยืมเพื่อการลงทุน อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทางฝ่ายทนายตั้มได้อ้างว่ามีแชตเป็นหลักฐานว่า “พี่อ้อย”
ได้ให้เงินทนายตั้มมาลงทุน แต่นายปานเทพได้โต้แย้งว่า ในความเป็นจริงแชตดังกล่าวเป็นการพูดคุยระหว่างทนายตั้มกับ ปานเทพ “พี่น้อย” ซึ่งเป็นเลขาฯ ของ “พี่อ้อย” โดยทนายตั้มได้ร้องขอให้ “พี่น้อย” ไปเจรจากับ “พี่อ้อย” อีกขั้นหนึ่ง แสดงว่า “พี่อ้อย” ยังไม่เห็นด้วย
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า แชตดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28, 29 และ 30 มกราคม 2566 แต่หลังจากนั้น “พี่อ้อย” ได้ตกลงตามนั้นหรือไม่ และหากเป็นการให้กู้ยืมตามที่อ้าง ทนายตั้มในฐานะเป็นทนายความที่รู้กฎหมายจะต้องทำสัญญากู้ยืมให้ชัดเจน แต่กลับไม่ทำสัญญากู้ แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืม รวมทั้งถ้าบอกว่าเป็นการลงทุนก็ต้องมีหลักฐานการจดทะเบียนหุ้นส่วน โดยที่อ้างว่าเป็นการลงทุนนั้น ตามแชตระบุว่าจะลงทุนทำแอปพลิเคชั่นหวยออนไลน์ โดยทนายตั้มอวดอ้างว่าตนเองมีเส้นสายรับทำสัมปทานหวยออนไลน์ได้
วันที่ 13 พ.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยแพทย์ตะวันออก ม.รังสิต ถึงกรณีที่ “ทนายตั้ม” ถูกจับ ฉ้อโกง “มาดามอ้อย” 71 ล้านบาท โดย อ.ปานเทพ ได้กางหลักฐานหนังสือสัญญาจ้างทำแอปฯ หวยออนไลน์ ทำขึ้นระหว่าง “มาดามอ้อย” ในฐานะผู้ว่าจ้าง กับบริษัทหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัททำหน้าที่เขียนแอปฯ เป็นผู้รับจ้างอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินของทนายตั้ม
หลักฐานดังกล่าวเป็นสิ่งชี้ขาดว่าเกิดอะไรขึ้น การจะตัดสินใจทำอะไร
ขึ้นอยู่กับสัญญาจ้าง ไม่ใช่แชทไลน์ตามที่ “ทนายตั้ม” พยายามจะสื่อถึง จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืม ลงทุน ไม่ได้ ปานเทพ เพราะไม่มีชื่อคุณแม้แต่นิดเดียว พร้อมกล่าวถึง “ทนายตั้ม” ด้วยว่า “เป็นการได้เงินมาด้วยเสน่หา หรือ วิเคราะห์การเมือง ล่อลวงแต่แรก เพื่อให้ได้ทรัพย์ของตัวเอง ได้เงินเสร็จ ถอนเงินซื้อบ้านด้วยเงินสด สิ่งเหล่านี้ตั้งมาเพื่อหลอกพี่อ้อย เพราะฉะนั้น เงิน 71 ล้าน เป็นสิ่งอื่นไม่ได้ นอกจากฉ้อโกง”